วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ขั้นตอนการสร้างสรรค์งานปูนปั้น


ขั้นตอนการสร้างสรรค์งานปูนปั้น
            1.การเตรียมปูน การหมักปูน ปูนขาวแช่น้ำสารส้มหมักทิ้งไว้ในถังหมักปูนระยะเวลาประมาณ 1 เดือน เพื่อลดความเค็มของปูน

            การร่อนปูนนำปูนที่หมักไว้ตามระยะเวลา 1 เดือน จนได้ที่แล้วนำมาร่อนบนตะแกรงไม้ ขณะที่ปูนยังเปียกอยู่โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเศษปูนก้อนใหญ่ หรือสิ่งที่ปนเปื้อนมากับปูนขาวออกจะทำให้ปูนที่ได้มีเนื้อละเอียดมากยิ่งขึ้น แล้วหมักในน้ำจืดอีกประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดความเค็มของปูน
                    การตากปูนนำปูนที่ได้จากการหมักครั้งที่สองมาตากให้แห้ง วิธีการตากปูนต้องทําให้เป็น ก้อนๆพอประมาณ ไม่ใหญ่จนเกินไป เพื่อที่ปูนจะได้แห้งเร็ว ใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ เมื่อปูนแห้งดีแล้ว นำมาเก็บไว้ในถังสำหรับเก็บปูนก้อน
          การบดปูนนำปูนก้อนมาใส่เครื่องบด โดยมีส่วนผสมปูน 1 กระป๋อง (ประมาณ 3 ลิตร) กาวหนัง 2 แก้ว กระดาษฟางที่ผ่านการทำมาแล้ว 1 แก้ว ต่อการบด 1 ครั้ง โดยใช้เวลาการบดประมาณ 10 นาที เมื่อบดได้ที่แล้วนำออกจากเครื่องบดปูน 

ภาพ  ปูนที่ผ่านกระบวนการตำ พร้อมสำหรับการปั้น
นำปูนที่ผ่านการบดแล้วมาตำโดยใช้เวลาตำปูนเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนมีความเหนียวนุ่ม ในขณะที่ตำ ช่างปูนปั้นจะต้องคอยสังเกตเองว่า ปูนที่ตำได้ที่ตามต้องการหรือยัง เมื่อตำปูนได้ที่แล้ว นำไปใส่ถุงพลาสติก มัดปากถุงให้แน่น เพื่อรักษาความชื่นไว้พร้อมที่จะนำไปผลิตชิ้นงานต่อไป ปูนที่ตำเก็บไว้ แล้วจะคงสภาพอ่อนอยู่อย่างนั้น แต่จะต้องไม่ให้อากาศเข้าไปในถุงได้ เมื่อช่างจะใช้ก็นำไปใช้ได้ทันที ส่วนใหญ่ จะใส่ถุงพลาสติกแช่ไว้ในน้ำ เวลาจะใช้ค่อยนำออกไปใช้เพื่อมิให้ปูนแข็งตัว (มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี, 2560)

               2. การขึ้นโครงแบบงานปูนปั้น มี 2 ลักษณะ 


ภาพ  การขั้นโครงเเบบ



ภาพ  การโกลนปูน


ภาพ  เทวดาที่ปั้นเสร็จ
    2.1. ภาพนูนลอย (แบบลอยตัว) ช่างปั้นจะต้องขึ้นโครงแบบ ก่อนการปั้น
          ในการปั้นปูนตำประดับพระอุโบสถ หรือวิหาร นอกจากการปั้นลวดลายประดับตามฝาผนังเป็นภาพนูนต่ำหรือนูนสูงแล้ว การปั้นภาพที่ต้องการเน้นความโดดเด่น ความสำคัญให้มีมากขึ้น จึงใช้การปั้นภาพเป็นแบบลอยตัว
          การปั้นภาพลักษณะลอยตัว เป็นการปั้นภาพให้เห็นได้เป็น ๓ มิติ คือ ความกว้าง ความยาว ความหนา มองเห็นได้รอบทิศทาง นิยมปั้นประดับตามบริเวณต่างๆ ของอาคาร เช่น การปั้นพระพุทธรูปและสาวก เทพารักษ์ ยกเฝ้าประตูทางเข้าออก หรือปั้นภาพพญานาค สิงห์ และสัตว์อื่นๆ ประดับอยู่ตามมุม หรือเชิงบันไดทางขึ้นลงพระอุโบสถหรือ วิหาร เป็นต้น (พิจิตร นิ่มงาม, 2550) (มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี, 2560)

ภาพการปั้นแบบนูนต่ำ นูนสูง
ภาพ การปั้นแบบนูนต่ำ นูนสูง






ภาพ  การปั้นแบบนูนต่ำ นูนสูงผ่านการลงสี

         2.2. ภาพติดผนัง ภาพนูนต่ำ (แบบนูนต่ำ นูนสูง) ช่างปั้นต้องออกแบบเขียนลายในกระดาษ เพื่อดูรูปแบบและเค้าโครงก่อน
                     ส่วนมากจะพบเห็นบนพื้นผนังที่เป็นพื้นเรียบ ในการปั้นปูนตำเป็นลักษณะนูนต่ำนี้ จะปั้นปูนเป็นภาพ หรือลวดลายแนบติดกับพื้นสม่ำเสมอกันไปตลอดทั้งภาพ ขอบภาพหรือขอบลายจะแนบเนียนสนิทกับพื้นภาพ การปั้นภาพลักษณะนูนต่ำนี้ เนื้อปูนที่ปั้นจะมีความบาง ไม่หนา น้ำหนักปูนที่ปั้นพอกจึงมีไม่มาก ไม่ต้องปั้นหุ่นขึ้นโครง จึงไม่มี กรรมวิธีการโกลนหุ่น หรือเตรียมการซับซ้อนมากนัก ช่างปั้นสามารถปั้นปูนตำเป็นรูปลักษณะตามแบบได้เลย วัตถุประสงค์อย่างหนึ่งของการปั้นแนบพื้นแบบนูนต่ำนี้ เป็นเพราะต้องการให้พื้นที่งานปั้นนั้น ยึดติดกับพื้นผนังได้มั่นคงแข็งแรง การปั้นชนิดนี้จึงมี ลักษณะเป็นการปั้นแบบนูนต่ำ ในการปั้นปูนลักษณะนูนสูง เป็นการปั้นที่ยกลอยสูงพ้นพื้นขึ้นมามาก แต่พื้นที่ส่วนใหญ่จะต้องยึดติดกับผิวพื้น เช่นการ ปั้นรูปเทวดา มนุษย์ หรือสัตว์ ส่วนที่เป็นลคอ ลําตัว โคนขาจะปั้นยึดแน่นแข็งแรงกับพื้นผนัง ส่วนที่เป็นศีรษะ แขน ขา มือ เท้า จะปั้นยกสูงจนบางครั้งเกือบเป็นลอยตัวก็มี และในการปั้นนูนต่ำกับนูนสูงผสมผสานกัน จะได้ผลงานการปั้นที่สวยงามอีกรูปแบบหนึ่ง เช่น มีทั้งตัวภาพและตัวลาย นิยมเน้นความสําคัญการปั้นตัวภาพให้มีความสูง ความหนามากกว่าตัวลาย (พิจิตร นิ่มงาม, 2550(มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี, 2560)

ภาพ  การโกลนปูน
  3.การโกลนปูน การปั้นปูนด้วยปูนตำหรือปูนเพชรนั้นช่างจะต้องออกแบบเขียนลายลงใน กระดาษเพื่อดูรูปแบบเค้าโครงชั้นหนึ่งก่อนเมื่อช่างปั้นร่างแบบแล้ว จะเขียนลายไว้หยาบๆ หรือบางครั้งจะ เขียนลายพร้อมการปั้นปูนไปด้วย เมื่อร่างลายแล้วช่างจะนำปูนซีเมนต์ปั้นพอก (ถือปูน) ไปตามรูปแบบที่ร่างไว้ (มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี, 2560)



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น